Udachi Series: Moscow
มอสโก (Moscow)
มอสโก(Moscow)ได้ปรากฎในประวัติศาสตร์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1147 ภายใต้การปกครองของยูริมือยาวหรือยูริ โดลการูกี้ ที่มีความตั้งใจแสวงหาเมืองหลวงเพื่อเป็นศูนย์กลางการปกครอง ระหว่างทางการเดินทางไปยังเมืองวลาดิมีร์ กองทัพของยูริได้แวะพักบริเวณริมแม่น้ำมอสโก และยึดดินแดนบริเวณดังกล่าว ก่อตั้งเป็นป้อมปรากราเครมลินในเวลาต่อมา
แต่ด้วยโชคชะตาอันแสนโหดร้าย มอสโกถูกรุกรานโดยชนเผ่าตาต้าจากมองโกล ที่ยึดอำนาจการปกครองกว่า 200 ปี จนกระทั่งอีวานที่ 3 สามารถปลดแอกจากมองโกลได้สำเร็จ ด้วยความสามัคคีของคนในชาติ ทำให้ในศตวรรษที่ 14 มอสโกกลายเป็นเมืองศูนย์กลางอำนาจและการปกครอง และขยายอำนาจ มีการปกครองโดยราชวงศ์ราชวงศ์รูริคอย่างสงบสุข แต่แล้วมอสโกก็ถูกถูกรุกรานอีกครั้ง ครั้งนี้โดยกองทัพโปแลนด์จากฝั่งยุโรปในศตวรรษที่ 17 อุปสรรคและขวากหนาม ก่อให้เกิดวีรบุรุษผู้กอบกู้มอสโก มินินและโปซาร์สกี้ นักรบคนสำคัญที่สามารถขับไล่กองทัพโปแลนด์ออกไปได้ วีรกรรมของทั้งคู่ถูกจารึกอย่างยิ่งใหญ่ ดังที่ได้เห็นจากรูปปั้นของทั้งสองบริเวณจัตุรัสแดงจวบจนกระทั่งปัจจุบัน
มอสโกเป็นศูนย์กลางการปกครองเหนืออาณาจักรรัสเซียทั้งมวล ผ่านร้อน ผ่านหนาว ยืนหยัดเป็นศูนย์กลางแห่งอารยธรรมรัสเซียในยุคเริ่มต้น จนกระทั่งพระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราช ผู้มีวิสัยทัศน์ และชาญฉลาดเห็นว่าจักรวรรดิรัสเซียขยายอำนาจยิ่งใหญ่ ควรหันหน้าพึ่งพากับประเทศยุโรปมากขึ้น ด้วยชัยภูมิที่โดดเด่นของเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ทำให้พระเจ้าซาร์ปีเตอร์ตัดสินพระทัยย้ายเมืองหลวงไปยังกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในปี ค.ศ. 1713 ความรุ่นรวยแห่งอารยธรรมภายใต้การปกครองของราชวงศ์โรมานอฟ ได้เริ่มต้นนับตั้งแต่บัดนั้น แต่ความสำคัญของมอสโก ไม่ได้สูญสิ้นไปอย่างสิ้นเชิง มอสโกยังเป็นเมืองสำคัญทางด้านเศรษฐกิจอันแสนโดดเด่น ด้วยเหตุดังกล่าวกองทัพนโปเลียนที่เข้ามารุกรานรัสเซียในศตวรรษที่ 19 จึงเลือกมอสโกเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่ต้องจัดการให้สูญสิ้น แต่ด้วยวิชาการรบอันเก่งของนายพลรัสเซีย ร่วมกับความหนาวอันแสนทรมานและความสามัคคีของชาวเมือง ทำให้กองทัพนโปเลียนไม่เคยสามารถยึดมอสโกไปได้และต้องพ่ายแพ้กลับไปในที่สุด
ความระส่ำระสายของจักรวรรดิรัสเซียเกิดขึ้นเมื่อแนวคิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ล้มล้างระบอบพระเจ้าซาร์ ปกครองโดยระบอบสังคมนิยม โดยมีวลาดิเมียร์ เลนิน หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ ได้เริ่มก่อตั้งสหภาพโซเวียต หรือการรวมตัวของกลุ่มประเทศภายใต้อำนาจของรัสเซียดั้งเดิม ที่ยอมรับแนวคิดสังคมนิยมให้แผ่ขยายขึ้น จากแนวคิดดังกล่าวทำให้พรรคคอมมิวนิสต์ได้ตัดสินใจย้ายเมืองหลวงกลับไปยังกรุงมอสโกดังเดิม เพื่อลบเลือนภาพความทรงจำสมัยจักรววรดิ อีกทั้งภัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ในขณะนั้น ทำให้เกรงว่าการมีเมืองหลวงอยู่ติดกับยุโรปมากเกินไป อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงในอนาคตได้
เมื่อมอสโกกลับมาเป็นเมืองหลวงอีกครั้งในศตวรรษที่ 20 อำนาจของกรุงมอสโกรุ่งเรืองภายใต้การปกครองระบบสังคมนิยมเป็นอย่างยิ่ง มีการสร้างตึก อาคาร รวมถึงรถไฟฟ้าใต้ดินอันแสนทันสมัย ตลอดการปกครองภายใต้ระบบสังคมนิยม มอสโกถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมคอมมิวนิสต์ร่วมศตวรรษ
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงจากระบอบสังคมนิยมมาสู่การปกครองในรูปแบบประชาธิปไตย มอสโกได้ถูกพัฒนารุดหน้า เป็นเมืองเศรษฐกิจอันแสนยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลก ที่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายของประวัติศาสตร์รัสเซีย ผ่านร้อน ผ่านหนาว แต่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าผ่านกาลเวลา