อิสตันบูล เมืองที่รวมเอาความหลากหลายทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
อูดาชีพาเที่ยว อิสตันบูล (Istanbul) เมืองที่คนไทยนิยมมาเที่ยวตุรกีต่างแวะเวียนเป็นอีกหนึ่งทริปต่างประเทศที่น่าจดจำ อิสตันบูลเดิมชื่อคอนสแตนติโนเปิล ก่อตั้งเมื่อ 660 ปีก่อนคริสตกาล เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างทวีปยุโรปและทวีปเอเชีย ถูกแบ่งออกจากกันด้วยช่องแคบบอสพอรัส ของทะเลมาร์มาราและช่องแคบดาร์ดาแนลส์ จึงตั้งอยู่ริมชายฝั่งอันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและโดดเด่นสำหรับการเที่ยวตุรกี เนื่องจากเป็นเมืองที่ประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกีและทวีปยุโรป อิสตันบูลจึงมีบทบาทเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของประเทศตุรกี เป็นที่ตั้งของจักรวรรดิต่างๆ ตั้งแต่ยุคโรมัน ไบเซนไทน์ และจักรวรรดิออตโตมัน เป็นศูนย์กลางทางศาสนาคริสต์และจุดเริ่มต้นการเผยแผ่คริสตศาสนาอย่างกว้างขวางในภูมิภาคนี้ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1453 ไบแซนไทน์กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของจักรวรรดิออตโตมัน ส่งผลให้ศาสนามุสลิมเข้ามามีอิทธิพล ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสร้างบทบาทใหม่ในประวัติศาสตร์ของไบแซนไทน์ การท่องเที่ยวตุรกีจึงมอบความรู้เชิงประวัติศาสตร์เชิงศาสนาได้อย่างคุ้มค่า นอกจากนี้เมื่อเมืองอังการาได้รับการเลือกให้เป็นเมืองหลวงของประเทศตุรกี ในขณะเดียวกันเมืองไบแซนไทน์ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นอิสตันบูลในปัจจุบัน การเปลี่ยนชื่อนี้เน้นถึงการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์และการเจริญรุ่งเรืองที่เมืองได้รับหลังจากการเป็นเมืองหลวงของประเทศ อิสตันบูลต่อมากลายเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและอิทธิพลทางทหารแห่งตุรกี รวมถึงเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของประเทศในยุคปัจจุบัน เป็นอีกหนึ่งทริปต่างประเทศที่น่าสนใจ ด้วยความคล่องตัวของการขนส่งและการท่องเที่ยวที่เติบโตของเมืองอิสตันบูล ทำให้เมืองแห่งนี้ยังคงเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญและเจริญก้าวหน้าของตุรกีและทวีปยุโรปทั้งหลายในปัจจุบัน ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรป จึงทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับห้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในการเที่ยวตุรกี ท่ามกลางศูนย์กลางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกและศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและความบันเทิง
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำอิสตันบูล
- จัตุรัสทักซิม (Taksim Square): พลาดไม่ได้สำหรับทริปตุรกีกับการแวะชมพื้นที่กลางใจของเมืองอิสตันบูลที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางวัฒนธรรมการท่องเที่ยวตุรกี เป็นศูนย์รวมโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร แหล่งช็อปปิ้ง แหล่งบันเทิงยามค่ำคืน เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟใต้ดินที่สำคัญ คือ สถานี Taksim นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่เคยมีเหตุการณ์สำคัญอย่างการชุมนุมของประชาชน กิจกรรมสาธารณะ ขบวนพาเหรด งานเฉลิมฉลองปีใหม่ เป็นต้น กลางจัตุรัสเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์แห่งสาธารณรัฐ สร้างขึ้นในปี 1928 เพื่อฉลองการก่อตั้งสาธารณรัฐตุรกีครบคอบ 5 ปี อีกหนึ่งจุดห้ามพลาดในการเที่ยวตุรกี
- อายะโซเฟีย (Hagia Sophia): หากใครหลงไหลประวัติศาสตร์และชอบเที่ยวต่างประเทศ อายะโซเฟียต้องเคยปรากฎในสายตาอย่างแน่นอน อายะโซเฟีย มีความหมายว่า ‘พระปัญญาบริสุทธิ์’ หรือ ‘พระปัญญาศักดิ์สิทธิ์’ (Holy Wisdom) เป็นโบสถ์ที่มีประวัติศาสตร์ที่โด่งดังและได้รับการให้สถานะเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก อีกหนึ่งที่เที่ยวตุรกีที่สำคัญ ตั้งอยู่ในย่านจัตุรัสของสุลต่านอาห์เหม็ด มีสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ มหาวิหารนี้สร้างขึ้นโดยพระจักรพรรดิจัสติเนียน มหาราชแห่งโรมันตะวันออก ผู้มีความฝันที่จะรื้อฟื้นอาณาจักรโรมที่ล่มสลายไปให้กลับคืนมา ในรัชสมัยของพระองค์เต็มไปด้วยความรุ่งเรือง การทำสงครามเพื่อขยายดินแดน การค้าทางไกล และการปฏิรูปกฎหมาย นอกจากนี้อายะโซเฟียในอดีตเป็นมหาโบสถ์ของศาสนาคริสต์นิกายไบแซนไทน์ มีประวัติศาสตร์มากกว่า 1,000 ปี จนกระทั่งในปี 1453 แต่เมื่อสุลต่านแห่งออตโตมันบุกยึดเมืองคอนสตันติโนเปิล จึงดำเนินการปรับแก้ทุกสิ่งให้กลายเป็นสุเหร่าของชาวมุสลิม และทำให้มหาวิหารนี้เป็นมัสยิดหลวงมากกว่า 500 ปี ก่อนภายหลังกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ในปัจจุบันได้กลับสู่สถานะมัสยิดอีกครั้ง นับเป็นสถานที่สำคัญที่เป็นสัญลักษณ์ของการรวมกันระหว่างสองศาสนาใหญ่ คือ คริสต์นิกายและอิสลาม เป็นตัวอย่างชัดเจนของความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรมที่ทำให้อิสตันบูลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีความเป็นเอกลักษณ์ในโลกทั้งปวง ปัจจุบันถือเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของกรุงอิสตันบูลที่ควรค่าแก่การไปเยือนระหว่างการเที่ยวตุรกี
- สุเหร่าสีน้ำเงิน (Blue Mosque): ตั้งอยู่ติดกับฮิปโปโดรม สุเหร่าสีน้ำเงินเป็นหนึ่งในมัสยิดที่สำคัญของอิสตันบูล สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 17 ชื่อของมัสยิดนี้มาจากสีของกระเบื้องในภายในที่มีลวดลายสีฟ้าที่งดงาม สร้างขึ้นในสมัยของสุลต่านอาร์เมดที่ 1 แห่งจักรวรรดิออตโตมัน สุลต่านหลายพระองค์มีความตั้งใจที่จะสร้างมัสยิดหลังใหม่ให้ใหญ่กว่าอายะโซเฟีย จนในที่สุดสามารถสร้างสุเหร่าสีน้ำเงินได้ขนาดยิ่งใหญ่ทัดเทียมอายะโซเฟียได้สำเร็จ มัสยิดนี้ประกอบไปด้วย หอมินาเร็ตหรือหออะซาน 6 หอ สูง 64 เมตร ซึ่งมัสยิดทั่วไปจะมีแค่ 1-2 หอเท่านั้น ตัวอาคารมีหลังคายอดโดม 5 หลังและโดมย่อยอีก 8 หลัง และมีลานด้านหน้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดามัสยิดของออตโตมัน นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสุเหร่าสีน้ำเงินจะได้พบเห็นความงดงามและความสง่างามของสถานที่นี้ในบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นศูนย์ศิลปะและศาสนาที่สำคัญในเมืองอิสตันบูล
- พระราชวังโทปกาปี (Topkapi Palace): พระราชวังโทปกาปีเดิมมีชื่อเรียกว่าพระราชวังเยนิซารายหรือพระราชวังใหม่ และถูกเปลี่ยนชื่อภายหลังเป็นพระราชวังโทปกาปี ซึ่งมีความหมายว่า “พระราชวังป้อมปืนใหญ่” พระราชวังนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอิสตันบูล จึงเป็นสถานที่ห้ามพลาดในทริปตุรกี ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีวิวทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมของเมืองอิสตันบูลและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน พระราชวังโทปกาปีใช้เป็นที่พักอาศัยและเป็นที่เก็บรวบรวมสมบัติของพระมหากษัตริย์อดีต สมบัติที่มีค่ามากถูกจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ภายในพระราชวัง พระราชวังโทปกาปีถูกสร้างขึ้นในปี 1459 ในสมัยของสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 แห่งจักรวรรดิออตโตมัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลายและน่าสนใจ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับศิลปะ โถโอชาม และเพชรนิลจินดาที่มีค่ามาก นอกจากนี้ยังมีการแสดงแถลงการณ์เกี่ยวกับเครื่องใช้ต่าง ๆ ของจักรวรรดิ ภายในพระราชวังนี้ได้รับการตกแต่งอย่างงดงามด้วยกระเบื้องลวดลายธรรมชาติและเรขาคณิต โดยเฉพาะลายเถาไม้และดอกทิวลิป เป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้พระราชวังโทปกาปีเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าจดจำในการเที่ยวอิสตันบูล
- ฮิปโปโดรม (Hippodrome) หรือ จัตุรัส Sultanahmet: ในอดีตใช้เป็นที่แข่งรถ จัดงานเฉลิมฉลอง และพิธีราชาภิเษกของกรุงคอนสแตนติโนเปิล ฮิปโปโดรมนี้สร้างขึ้นในปี 203 สมัยของจักรพรรดิแซปติมิอุส แซเวรุส ในตอนแรกเป็นลานประลองเล็ก ๆ แต่ถูกต่อเติมและขยายให้ใหญ่ขึ้นในภายหลัง ในช่วงสงครามครูเสดครั้งที่ 4 ถูกทิ้งร้างและเสียหาย หินจากลานฮิปโปโดรมถูกนำไปใช้สร้างอาคารและมัสยิด โดยทำให้เหลือเพียงลานโล่ง ๆ เท่านั้น ต่อมาได้รับการปรับปรุงเป็นจัตุรัสที่มีความสำคัญที่สุดในอิสตันบูล เป็นจุดท่องเที่ยวตุรกีที่สำคัญและเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญ ได้แก่ สุเหร่าสีน้ำเงิน อายะโซเฟีย อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน เป็นต้น ซึ่งทำให้เป็นจุดหมายที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมตุรกี
- อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Basilica Cistem): อุโมงค์เก็บน้ำใต้ดินโบราณที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในอิสตันบูล สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 6 ในสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียนแห่งไบแซนไทน์ เป็นโครงสร้างที่สำคัญในการจัดเก็บน้ำฝนเพื่อใช้ในพระราชวังหลวงของกรุงคอนสแตนติโนเปิล หลังจากกรุงคอนสแตนติโนเปิลล่มสลาย อุโมงค์นี้ถูกใช้เป็นที่เก็บน้ำสำรองให้แก่ราชวังโทปกาปี ภายหลังมีการพัฒนาระบบส่งน้ำแบบใหม่ อุโมงค์แห่งนี้จึงถูกทิ้งร้าง และถูกบูรณะขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตุรกีในปัจจุบัน สิ่งที่น่าสนใจที่อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน คือ The Hen’s Eye Column หรือเสาตาไก่ และ เสา Medusa’s Columns เสาก้อนหินสลักรูปเมดูซา สัตว์ประหลาดในเทพปกรณัฌกรีก มีใบหน้าเป็นมุนษย์ มีงูพิษเป็นผม หากจ้องมองจะถูกเปลี่ยนเป็นหิน
- ตลาดแกรนด์บาร์ซาร์ (Grand Bazaar): ชอปปิ้งอิสตันบูลที่ตลาดแกรนด์บาร์ซาร์เป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้ หนึ่งในตลาดเที่ยวอิสตันบูลที่มีชื่อเสียงที่สุดและมีประวัติศาสตร์ตุรกีอันยาวนาน ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองอิสตันบูล ตลาดนี้มีบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์และเต็มไปด้วยความสดชื่นของชีวิตคนในเมือง ตลาดแกรนด์บาร์ซาร์มีต้นกำเนิดในศตวรรษที่ 15 และเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีร้านค้าที่ขายของต่าง ๆ เช่น เสื้อผ้า จักรยาน อัญมณี ของใช้ในชีวิตประจำวัน ผลิตภัณฑ์ฝีมือ และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ คุ้มค่าในการเที่ยวตุรกี
- หอคอยกาลาตา (Galata Tower): หอคอยโบราณที่มีความสำคัญเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองอิสตันบูล สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 13 เพื่อใช้ควบคุมการเข้าออกดินแดนทางอ่าว Golden Horn หอคอยกาลาตาเคยถูกทำลายในปี ค.ศ. 1203 ในช่วงสงครามครูเสดครั้งที่ 4 และถูกสร้างขึ้นใหม่ในสไตล์ Romanesque มีโครงสร้างที่สูงหลายชั้น และเคยถูกใช้เป็นหอคอยระวังอัคคีภัยให้กับเมือง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและเป็นจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยมในการเที่ยวอิสตันบูลที่นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทั้งเมืองอิสตันบูลและอ่าว Golden Horn ได้จากชั้นบนสุดของหอคอยกาลาตา นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับร้านคาเฟ่และร้านอาหารที่มีบรรยากาศอบอุ่นริมทะเลสีดำที่น่าสนใจ หอคอยกาลาตายังมีความสำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองอิสตันบูล และถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวตุรกีควรเข้าชมในการเยี่ยมชมเมืองนี้
- ตลาดเครื่องเทศ (Spice Bazaar): หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อคือ ตลาดอียิปต์ เป็นแหล่งช็อปปิ้งที่มีชื่อเสียงและใหญ่เป็นอันดับสองรองจากตลาดแกรนด์บาร์ซาร์ เป็นศูนย์กลางการค้าขายเครื่องเทศในช่วงศตวรรษที่ 17 เป็นแหล่งขายของฝาก อาทิ ชา กาแฟ ถั่วอบแห้ง สามารถชิมอาหารและขนมหวานที่หลากหลายที่มีขายในตลาดนี้ด้วย ราคาของในตลาดแห่งนี้จะมีราคาถูกกว่าตลาดแกรนด์บาร์ซาร์