Enter your keyword

หน้าหนาวกับชีวิตบนท้องถนน

หน้าหนาวกับชีวิตบนท้องถนน

คำว่า หนาว ชาวรัสเซียจะพูดว่า Холодно หรืออ่านเป็นไทยว่า โฮลัดน่า ในฤดูหนาว ถ้าคุณไปพูดกับชาวรัสเซียว่า ตอนนี้เมืองไทย หนาวมาก แล้วถ้าเค้าถามคุณกลับมาว่ากี่องศา คุณตอบเขาไปว่า +15 คนรัสเซียคงจะหัวเราะกลิ้งตกเก้าอี้เป็นแน่ ทั้งนี้เพราะ คนรัสเซียให้ความหมายของคำว่าหนาว ที่อุณหูมิติดลบ สำหรับชาวรัสเซียฤดูหนาวที่อบอุ่นนั้นไม่ได้หมายถึงฤดูหนาวที่มีอุณหภูมิอยู่ที่บวก แต่หมายถึงอุณหภูมิอยู่ที่ -15 ถึง -20 องศา

russia

ในบทความที่แล้วได้พูดถึงการใช้ชีวิตของคนทั่วไปบนท้องถนนไปแล้ว คราวนี้เราจะพูดถึงรถยนต์กันบ้าง ที่เห็นในภาพ เป็นล้อรถยนต์ชนิดหนึ่งที่ชาวรัสเซียใช้กันในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากในช่วงฤดูหนาวถนนจะถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งที่มีความลื่น ใครที่นึกถึงประโยชน์ใช้งานของล้อแบบนี้ไม่ออก ให้คุณลองนึกถึงที่ไสน้ำแข็งใสโบราณของไทยเราที่ใช้เกาะน้ำแข็งเพื่อถูกไปบนมีดให้ได้น้ำแข็งใส หลักการทำงานก็เช่นเดียวกัน โดยพวกยางตะปูเหล่านี้จะเกาะยึดพื้นถนนที่เป็นน้ำแข็งเพื่อให้ล้อรถไม่ฟรีและสามารถแล่นไปได้บนท้องถนน นอกจากยางรถยนต์แบบที่เห็นในภาพแล้ว ในตอนเหนือของรัสเซีย คุณจะเห็นยางรถอีกรูปแบบหนึ่งคือ ยางที่ถูกพันด้วยโซ่พิเศษสำหรับล้อรถโดยเฉพาะ ซึ่งให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะมากกว่ายางตะปู

ภายในรถยนต์ของรัสเซียจะมีเครื่องปรับอากาศสองระบบ คือ แอร์ และ ฮีตเตอร์ ในการเดินทางระยะทางใกลๆ มากๆ ขนาดอุณภูมิมากกว่า –20 องศา สำหรับรถยนต์ขนาดเล็กตำแหน่งที่นั่งที่ถือว่าสบายที่สุดนอกเหนือไปจากตำแหน่งคนขับ เห็นจะเป็น ตำแหน่งด้านข้างคนขับ ไม่ใช่เพราะมีพื่นที่เยอะกว่าหรือไม่แออัด จริงๆ แล้วตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ได้รับฮีทเตอร์ตรงปลายเท้ามากกว่านำแหน่งอื่นๆ คือ พูดอีกอย่างคือ ถ้านั่งดานหลังระยะทางยาวๆ คุณจะรู้สึกว่าหนาวท้าวมากกว่านั่งด้านหน้า ดังนั้น ในการเดินทางใกลๆ ถ้าไปกันหลายๆ คน คนรัสเซียจะแสดงน้ำใจต่อกันโดยการสลับสับเปลี่ยนกันมานั่งด้านหน้า ถ้าเดินทางไกลๆ นานๆ ผู้ที่โดยสารภายในรถก็จะออกกำลังกล้ามเนื้อแขนโดยการขูดน้ำแข็งที่ติดกระจกออกเพื่อไม่ให้บดบังทัศนวิศัยในการขับขี่ของคนขับ

ในช่วงหน้าหนาวอุณหภูมิติดลบมากๆ ชาวรัสเซียจะต้องทตาร์ทรถตนเองทิ้งไว้ก่อนออกเดินทางเป็นชั่วโมงๆ เพื่อวอร์มเครื่องยนต์ หรือถ้าต้องจอดนานๆ บนถนน ก็จะต้องกลับมาสตาร์ทรถทิ้งไว้ทุกสองสามชั่วโมง การสตาร์ทปุ๊บแล้วเดินเครื่องปั๊บจะส่งผลให้เครื่องยนต์ หรือชิ้นส่วนของเครื่องยนต์แตกหักเสียหายได้ เนื่องจากเครื่องยนต์อยู่ในภาวะฟรีสจากความหนาวเย็นของอากาศภายนอก เชื่อหรือไม่ว่าในพื้นที่บางแห่งที่มีอุณหภูมิติดลบมากๆ ตลอดทั้งปี เช่น ในเมือง Noviy Urengoi ซึ่งเป็นที่ตั้งของแท่นขุดเจาะน้ำมัน รถเหล่านั้นจะดับเครื่องยนต์เฉพาะช่วงฤดูร้อน พูดอีกนัยหนึ่งก็คือรถยนต์จะติดเครื่องอยู่ตลอดเวลาจนกว่าหน้าร้อนจะมาถึง เพราะเมื่อไหร่ที่ดับเครื่อง รถคันนั้นก็กลายเป็นเศษเหล็กที่ใช้การไม่ได้อีกต่อไป

นอกจากนี้ ในช่วงฤดูหนาว จะมีถนนที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อย่นระยะทาง เมื่อใดก็ตามที่คุณเห็นป้ายสัญลักษณ์ที่เขียนว่า зимник หรืออ่านเป็นไทยว่า ซิมนิค พึงสังวรว่า ขณะนั้นคุณกำลังเล่นไปบนถนนน้ำแข็ง ซึ่งในช่วงหน้าร้อน มันคือ แม่น้ำ หรือทะเลสาบ ดีๆ นี่เอง ซึ่งความลึกก็ไม่ต้องพูดถึง ถนนเหล่านี้ถูกวัดระดับของน้ำแข็งที่อยู่บนพื้นผิวน้ำโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเป็นอย่างดี ก่อนที่จะเปิดให้รถยนต์หรือแม้แต่รถสิบล้อก็ตามให้สามารถวิ่งผ่านไปได้ ถึงกระนั่น คนไทยอย่างเราก็อดหวาดเสียวไม่ได้ เพราะไม่อยากจะนึกถึงภาพที่รถจมลงไปทั้งคัน

แม้ว่าความหนาวสไตล์รัสเซียจะทำให้ ชาวเมืองร้อนอย่างคนไทยเราเกิดหวาดกลัว และสงสัยในความเป็นอยู่ของชาวรัสเซียอยู่บ้าง แต่สำหรับคนท้องถิ่นแล้ว เค้าถือว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติเพราะเขารู้จักวิธีรับมือกับมันเป็นอย่างดี โดยพวกเขาเตรียมพร้อมอยู่เสมอกับการเปลี่ยนแปลงของอากาศที่นับวันจะเลวร้ายลงเรื่อยๆ ซึ่งไม่ได้มีให้เห็นเพียงแต่ในรัสเซียเท่านั้น แต่ยังมีเหตุการณ์ภัยทางธรรมชาติต่างๆ ให้เราพบเห็นตามสื่อต่างๆ อยู่บ่อยครั้งทั่วทุกมุมโลก และการแปรปรวนของสภาพอากาศในปัจจุบันนี้ทำให้เราแทบจะคาดคะเนอะไรไม่ได้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ก็ไม่ใช่อิทธิพลของธรรมชาติ แต่เป็นผลมาจากน้ำมือของมนุษย์ขี้เหม็นที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเช่นเราๆ นี่เอง

เท่าที่ทราบจากประสบการณ์ในการบินที่ผ่านมา ในช่วงฤดูหนาว ก่อนทำการบินทุกครั้ง ทางสายการบินจะใช้เครื่องพ่นน้ำยาชนิดพิเศษพ่นเคลือบตลอดทั้งลำเพื่อป้องกันการ.ยึดเกาะของน้ำแข็ง โดยเฉพาะในส่วนของปีกที่บังคับทิศทางการบิน แอดมินยังไม่เคยประสบปัญหาที่เกิดจากอากาศหนาว แต่ถ้าพูดถึงความเก่าความใหม่ของเครื่อง อันนี้มีส่วนต่อความปลอยภัยมากกว่า ดังนั้น แนะนำให้เลือกสายการบินที่คุณให้ความไว้ใจ ดีที่สุด

ขอขอบคุณที่มาจาก :
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=605306652827025&set=a.554408274583530.1073741825.545709375453420&type=1

No Comments

Post a Comment