วันเอกภาพแห่งมวลชนรัสเซีย – วันรวมชาติรัสเซีย

คุสมา มินิน และเจ้าชายดมิทรี ปาชาร์สกี้

ความเป็นมา

ในช่วงศตวรรษที่ 17 เป็นยุคสมัยแห่งความยุ่งยาก ประเทศรัสเซียถูกรุกรานจากโปแลนด์ โดยโปแลนด์ปลอมตัวเป็นกษัติร์รัสเซียที่หายตัวไป และยาตราทัพเข้ามายึดรัสเซีย ในที่สุดมอสโกถูกโปแลนด์เข้ายึดครองได้ในที่สุด

ชาวบ้านจากมอสโก ต่างพากันอพยพไปอยู่ทางตะวันออกของรัสเซียที่เมือง“นิชนีโนฟโกรัด”เพื่อเตรียมกองกำลังเพื่อยึดมอสโกคืนให้ได้ ใช้เวลารวบรวมกองกำลังอยู่ 2 ปี สุดท้ายพ่อค้าคุสม่า มินิน และเจ้าชายดมิทรี ปาชาร์สกี้ ก็นำทัพรัสเซียเข้าบุกยึดมอสโกได้ในปลาย ค.ศ.1612 จากนั้นมารัสเซียก็เป็นไทกับตัวเอง และเข้าสู่ยุครุ่งเรืองและพัฒนาประเทศถึงขีดสุด ก่อนจะเปลี่ยนการปกครองเข้าสู้ระบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์

จตุรัสแดง

การระบุเป็นวันหยุดราชการ

จริงๆแล้วในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ในสมัยพระเจ้าอเล็กเซย์ โรมานอฟเป็นต้นมาก็ได้มีการระลึกถึงวันนี้ทุกปี แม้แต่ในสมัยปีเตอร์มหาราช ถูกยกย่องให้เป็นวันเฉลิมฉลองชัยชนะ หรือจะพูดว่าเป็นวันชาติสมัยก่อนเลยก็ว่าได้

เมื่อเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองภายในรัสเซียจากระบบกษัตริย์เป็นระบบคอมมิวนิสต์ วันนี้ถูกยกเลิกไปเพราะขัดต่อนโยบายพรรค

ในปี 2005 มติจากสภาดูม่า ระบุให้วันที่ 4 พ.ย. เป็นวันหยุดราชการ เรียกว่า “วันเอกภาพแห่งมวลชนรัสเซีย” หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆว่า วันรวมชาติรัสเซีย จะมีการเฉลิมฉลองที่จตุรัสเดงและเมืองนิชนีโนฟโกรัด เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งที่ขับไล่โปแลนด์ออกจากมอสโกได้ในปี ค.ศ.1612

วีรบุรุษรัสเซียในตอนนั้น คือ “พ่อค้ามินินและเจ้าชายปาชาร์สกี้” พากันนำคนรัสเซียขับไล่โปลนด์ออกไปได้ จนได้รับการถยกย่องและสร้างรูปปั้นไว้หน้าวิหารเซนต์บาซิล เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่สำคัญครั้งนั้น ใครผ่านไปผ่านมาที่จตุรัสแดง…ก็ไม่คงจะเห็นรูปปั้นนี้ตั้งตระหง่านเด่นอย่างสง่างาม

กล่าวง่ายๆได้ว่า รัสเซียเนี่ย เขาภูมิใจมากในประวัติศาสตร์ชาติเขานะ เขาชนะใคร เมื่อไหร่ ที่ไหน ก็จะเป็นวันหยุดเฉลิมฉลองกันยิ่งใหญ่ เพื่อระลึกถึงวีรบุรุษและสตรีที่สละชีพเพื่อชาติ ดูอย่างวันที่ 9 พฤษภาคม วันแห่งชัยชนะ เพื่อระลึกถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่รัสเซียเอาชนะนาซีมาได้ ช่วงค.ศ. 1941-1945

เขียนโดย paparosnok