สิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอันขาดเมื่อเผชิญกับอากาศที่หนาวจัด
ข้อหนึ่ง – เอาผ้าพันคอมาพันจมูกและปาก
คนจำนวนไม่น้อยเวลาเดินบนท้องถนนมักจะเอาผ้าพันคอมาพันที่ปากและจมูก โดยหารู้ไม่ว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นหวัดและหลอดลมอักเสบ ไอจากลมหายใจออกจะจับตัวเป็นก้อนน้ำแข็งที่ผ้าพันคอ ดังนั้น เมื่อเราหายใจเข้าเราก็จะหายใจผ่านน้ำแข็งที่เกาะอยู่ที่ผ้าพันคอเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งหมายความว่า อากาศที่เราหายใจเข้าจะเย็นขึ้น
ข้อสอง – ผ้าพันคอปิดจมูก
ข้อนี้เป็นการอธิบายเพิ่มเติมถึงข้อข้างบนว่า ถ้าเอาผ้าพันคอมาพันที่หน้า ก็หมายถึงว่า จมูกจะหายใจลำบากขึ้น ในขณะที่เราต้องการออกซิเจน ทำให้เราเกิดอาการหายใจไม่ออก ในขณะเดียวกันเราก็กลืนอากาศเย็นเข้าไปภายในจากน้ำแข็งที่เกาะอยู่กับผ้าพันคอนั้น ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่จะเดินออกจากบ้านทุกครั้งจะต้องสำรวจจมูกของเราว่ามีอะไรมาปิดกั้นอยู่หรือเปล่า เพื่อจะได้หายใจได้ง่ายขึ้นและพร้อมรับกับความหนาวเย็นบนท้องถนน
ข้อสาม –ใช้ยาหยอดหรือพ่นจมูก
หลายคนที่คัดจมูกมักใช้น้ำยาหยอดหรือพ่นจมูก การกระทำเช่นนี้ไม่ควรทำก่อนการเดินออกไปบนถนนที่หนาวเย็น การหยอดจมูกจะทำให้เส้นเลือดในจมูกหดตัวลง ทำให้ภายในจมูกแห้ง เมื่อได้รับอากาศหนาวเย็นสมองก็จะสั่งให้เส้นเลือดแคบลงอีก เป็นผลทำให้น้ำมูกภายในจมูกทำงานหลักของตนเองในการเป็นตัวกรองเชื้อโรคได้ไม่เต็มที่ และไม่ช่วยอุ่นอากาศเมื่อเราหายใจเข้าอย่างที่มันควรจะเป็น
ข้อสี่ – ยืนตัวเกร็งหนาวสั่นบนถนน
เรามักจะเห็นคนส่วนหนึ่งบนท้องถนนยืนหรือเดินตัวสั่นด้วยความหนาว โดยไม่สนใจสิ่งที่อยู่รอบข้างว่าจะช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ไม่เคยคิดว่า เฮ้ย…นั่นมันร้านขายยานี่ ลองเข้าไปหลบหนาวซักหน่อยดีไม๊ แต่เปล่าเลย กลับเดินเลียบเคียงแต่ไม่คิดที่จะเข้าไปข้างใน และนี่คือสิ่งที่ไม่ควรปฎิบัติเป็นอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่ถูกต้องคือ ทันทีที่เรารู้สึกว่าเกิดอาการชาจากความหนาวเย็นบนท้องถนน ควรต้องรีบหาที่ใดซักที่หนึ่งเข้าไปหลบใหคลายหนาวซัก 5-10 นาที เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น จากนั้นค่อยเดินต่อไป
ข้อห้า – การหายใจสั้นๆ
ในช่วงเวลาที่ติดลบมากๆ การหายใจลึกๆ เป็นไปได้ยาก ดังนั้นเราจึงหายใจกันสั้นๆ โดยหารู้ไม่ว่าการหายใจสั้นๆ นั้นทำให้หัวใจต้องทำงานหนัก และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และถึงยังไงก็ไม่ช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพออยู่ดี ร่างกายเรายังคงต้องการให้มีการหายใจให้ลึกขึ้นและบ่อยขึ้น ดังนั้น อัตราการเต้นของหัวใจต่อนาทีจึงมากขึ้น เพราะร่างกายต้องการออกซิเจนที่เพียงพอเพื่อไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย ด้วยเหตุนี้ ทำให้บางคนเกิดอาการปวดหัว และโดยทั่วไปแล้วผู้คนจึงแก้ปัญหาด้วยการรีบไปให้ถึงจุดหมายของตนเองให้เร็วที่สุด แต่ที่จริงแล้ว ควรยอมเสียเวลาซักเล็กน้อยเพื่อหาร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือร้านขายยา เพื่อเข้าไปพักหายใจ และรับออกซิเจนให้เต็มที่
ข้อหก – การดื่มชาหรือกาแฟร้อน
สิ่งหนึ่งที่หลายต่อหลายคนทำผิดกันก็คือ การเดินบนท้องถนนหลังจากการดื่มชาร้อนๆ แน่นอน หลายๆ คนเข้าใจว่าการดื่มชาร้อนจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น แต่ขณะเดียวกันมันก็ทำให้เส้นเลือดขยายตัว ดังนั้น ก็หมายความว่าการออกไปเผชิญกับความหนาวขณะที่เส้นเลือดขยายตัว ทำให้ความอบอุ่นภายในร่างกายของเราหายไปเร็วขึ้น ดังนั้น หลังจากการดื่มชาหรือกาแฟร้อนแล้วไม่ควรที่จะออกจากบ้านเลยทันที และควรจะรอให้ผ่านไปอย่างน้อย 30 นาทีเสียก่อน
ข้อเจ็ด – การอาบน้ำ
ด้วยสาเหตุเดียวกันกับข้อข้างต้น ห้ามออกไปจากบ้านหลังจากอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ความนาวเย็นเข้าสู่ร่างกายได้เร็วขึ้น ดังนั้น เราควรจะต้องพร้อมที่จะละทิ้งการกระทำที่เราเคยชินเมื่อต้องเข้าสู่ฤดูหนาวที่หนาวจัด
ข้อแปด – การสระผม
ข้อนี้ส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ชอบสระผมในตอนเช้า ด้วยความเร่งรีบผู้หญิงส่วนใหญ่จึงมักจะออกจากบ้านในขณะที่ผมยังไม่แห้งสนิทดี สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ห้ามทำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการเดินออกจากบ้านในขณะที่ผมหรือเสือผ้าเปียกชื้น จะทำให้กระบวนการในการควบคุมอุณหภูมิภายในร่างกายหายไป
ที่มา: www.sayhirussia.com
No Comments